วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554

นรกขุม

วันอังคารที่ ๓๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๓๒

ครั้งที่ ๒

นรกขุม ๒ แดนลงทัณฑ์ (คดีลามก)


กายธรรมกายของผมปรากฏอยู่ท่ามกลางต้นไม้สูงใหญ่ หลายๆ ต้น ต้นไม้นี้เป็นต้นไม้กลปลูกขึ้นเพื่อป้องกันวิญญาณหลบหนีเหนือขึ้นไปบนกิ่งไม้ยังมี “อีกาปากเหล็ก” เกาะอยู่ ผมเดินออกจากต้นไม้กลนี้ตามเครื่องหมายที่ปรากฏบนต้นไม้
เมื่อผมเดินพ้นออกมา เบื้องหน้าผมมียมทูตยืนอยู่สององค์ ยมทูตสององค์นี้สวมกางเกงขาสั้นสีกากี ไม่สวมเสื้อ รูปร่างบึกบึน มีผมสีทองออกน้ำตาล ไว้หนวดเครามีขนขึ้นอยู่บริเวณหน้าอก ที่แขวนขวาของยมทูตจะมีเครื่องหมายบอกไว้ว่าอยู่นรกขุมไหนที่คอและเท้ามีห่วงเหล็กคล้องอยู่บนคอและข้อเท้า ห่วงเหล็กจะแสดงถึงยศของยมทูต ยมทูตแต่ละชาติจะถืออาวุธและมีเครื่องหมายบอกยศไม่เหมือนกัน การแต่งกายในแต่ละองค์ก็จะผิดกันยมทูตอีกองค์หนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ นั้นผมดำหยิกเหมือนนิโกร ที่หน้าอกมีเส้นขนขึ้นเป็นกลุ่มอยู่ทั่วไป และแต่งกายด้วยเครื่องแบบเดียวกันกับยมทูตองค์ที่ยืนข้างๆ ยมทูตทั้งสององค์นี้เป็นยมทูตประเทศอังกฤษ และถืออาวุธเป็นหอกยาวเหน็บอาวุธด้วยเหล็กเรียกว่า “ปืนยาวไร้วุทธ์”
ข้างๆ ของยมทูตมีผู้หญิงสองตน มีชื่อว่า “ผีลามก” เป็นผีที่มืออวัยวะเพศใหญ่เกินตัว ผีทั้งสองตัวกำลังคุกเข่าชันมือชันเข่ากับพื้นดิน ผีหญิงตัวหลังกำลังใช้ลิ้นเลียอวัยวะเพศของผู้หญิงตนข้างหน้า ความรู้สึกของผีทั้งสองตนในตอนนี้กำลังเมามันกับความทุกข์ของตน เขาได้รับกรรมทาสเสมือนหนึ่งดังตัวเองได้เข้าไปร่วมเพศกับเพศชายจริงๆ เพราะกรรมเก่าที่เขาได้เคยทำในอดีตเขาทั้งสองจะเป็นผีที่มีอวัยวะเพศใหญ่ยาวในลักษณะของเพศหญิงเพราะเขาได้ร่วมเพศกับเพศเดียวกันกับตน
อดีตชาติของหญิงสองตนนี้ เป็นผู้หญิงที่มีอาชีพขายบริการให้กับขายกลัดมันที่เข้ามาเที่ยวหาความสุขกับตน หญิงทั้งสองตนนี้ได้สร้างกรรมหนักไว้กรรมชายหลายคน เขาได้แพร่กระจายเชื้อโรคจากกายของตนเข้าสู่ร่างกายผู้อื่นด้วยการร่วมเพศและแพร่พันธุ์เชื้อให้เขา
เขาได้ถูกลงโทษในนรกขุมนี้อยู่นาน จนกว่าเขาจะพ้นกรรมนั่นเป็นบาปกรรมที่พวกเขาได้รับเนื่องจากกรรมลามก
จากการลงทัณฑ์ในที่นี้เขาจะถูกนำตัวไปที่อื่นอีกตามกำหนดกรรมที่กำหนดไว้ ผมเดินตามไปเรื่อย ๆ ยมทูตได้นำวิญญาณสองตนไปสู่สระน้ำกว้างใหญ่มีชื่อบอกว่า สระกาเม ผีทั้งสองตนนี้เมื่อเห็นสระน้ำต่างก็วิ่งลงไปเล่นน้ำด้วยความไม่รู้ว่าน้ำนั้นเป็นอย่างไร เขาได้ถูกน้ำกรดในน้ำกัดกินร่างกายจนขาดวิ่น เขาทั้งสองได้โผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วยความทุรนทุราย บนใบหน้าของพวกเธอได้แสดงถึงความบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดอันสุดจะทนและได้ร้องออกมาอย่างสุดเสียง ผิวหนังของพวกเธอถูกกัดกินด้วยการกัดของกรดในน้ำจนแหลกเหลว เมื่อผีทั้งสองรู้สึกตัวเช่นนั้นต่างก็กระเสือกกระสนหนีอย่างสาละวน โดยหารู้ไม่ว่าการลงทัณฑ์นี้เขาไม่สามารถหลบหนีได้แม้มีชั่วเวลาว่าง รูปร่างที่ออกมาใหม่ของพวกเธอ ผมเห็นแล้วแทบจะวิ่ง ดวงตาเธอหลุดออกมานอกเบ้าปากของเธอ หูของเธอ ขาของเธอ ขาดหายไปจากร่าง ไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่ผมสันนิษฐานว่าคงจะถูกน้ำกรดกัดกินจนหมดแล้ว นี่เป็นความคิดเห็นของผม ผมออกจากแดนนี้ไปด้วยความรู้สึกหดหู่ ใจคิดว่าเขาจะพ้นกรรมเมื่อไหร่ สักวันหนึ่งคงไม่นาน… เขาทั้งสองคนพ้นกรรมในเร็ววัน
เขาทั้งสองได้ถูกไฟนรกในขุมนี้เผาลายร่างกายจนหมด เถ้าถ่านเหลืออยู่บอกได้เพียงว่ากองนี้เป็นของใคร เพราะไฟนรกนั้นเป็นไฟกรดที่มีอำนาจกรรมบังคับอยู่ ไม่อาจบอกได้ว่ามีอานุภาพเพียงใด ผมเดินตามยมทูตไปอีก เธอทั้งสองถูกนำตัวไปในบ่อซึ่งหนอนอยู่เต็ม หนอนแต่ละตัวนี้มีความยาวห้านิ้วคน ความยาวของหนอนนี้จะทำให้ร่างกายของคนหดสั้นเข้าด้วยน้ำลาย ของหนอนนี้ (หนอนนี้เมื่อเกาะคนก็จะคายน้ำลายออกมาตามร่างกาย) คนที่ถูกหนอนนี้เกาะจะมีสภาพเหมือนเปรตไม่มีผิด เน่าเปื่อยไม่มีเหลือ บาปกรรมที่ได้ก่อได้ชดใช้กับตอนนี้ ใครหนอ…. กล่าวว่าบาปกรรมนั้นไม่มี ผมว่าบาปกรรมนั้นมี แต่มีใครเล่าจะรู้ว่ามันมีเช่นไร ไปไหน และในสภาพใด (นี้เป็นคำพูดที่ผมกล่าวไว้เพียงผู้เดียว)
“สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นแล้วย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่มีผู้ใดหลีกหนีไปได้”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น